จางกยูริ เปิดเผยเหตุผลที่ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางจากไอดอลสู่นักแสดง พร้อมกล่าวถึงเพื่อนสมาชิกวง fromis_9 อย่างอบอุ่น

จางกยูริ ผู้ที่ผ่านมาทำกิจกรรม ในวงการบันเทิง ในฐานะไอดอล สาวจากวงเกิร์ลกรุ๊ป fromis_9
แล้วก็ภายหลังได้ ตัดสินใจเริ่มต้นเส้นทาง สายนักแสดง แบบสุดกำลัง
ปัจจุบัน เธอได้มีโอกาสสัมภาษณ์ กับสื่อถึงผลงาน ของเธอ พร้อมเผยเหตุผลที่เธอ ได้ก้าวเข้าสู่ทาง ใหม่นี้ และ ยังได้กล่าวถึง เพื่อนสมาชิกวง fromis_9 อย่างอบอุ่น

ภายหลังจากได้รับความรัก อย่างล้นหลาม จากการที่ เธอได้เริ่มเป็น นักแสดง แบบเต็มตัวผ่าน ผลงานซีรีส์ Cheer Up
ซึ่งเธอได้ รับบทเป็น แทโชฮี รองประธาน ชมรมเชียร์ ลีดเดอร์ธีอา ผู้ที่ทั้งยังโด่งดังแล้วก็ รอสร้างสมดุล ให้กับชมรมเรื่อยมา
และก็แม้ว่าผลงานนี้ จะนับเป็นผลงานแรก ที่เธอได้เริ่มทางสายนักแสดง แต่เธอ ก็สามารถแสดง ออกมาได้ อย่างน่า ประทับใจ โดยเธอ ก็ได้เปิดเผยความรู้สึกนี้ว่า

“มันคงเป็น เรื่องโกหก ถ้า หาก ฉัน บอกว่า ฉันไม่กดดันเลย เพราะซีรีส์เรื่องนี้ นับเป็น ซีรีส์เรื่องแรก หลังจาก ที่ฉันตัดสินใจ ที่ จะก้าวเข้าสู่ สายนักแสดงค่ะ อีกทั้ง ฉันยัง ได้ รับบท เป็นตัวละครหลัก อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ฉันก็ คลายความกังวลลงได้ เพราะตัวละคร ของฉัน ไม่ใช่ตัวละคร ที่เป็นตัวดำเนิน เรื่องขนาดนั้น ฉันได้เรียนรู้ อะไรมากมาย และ ยังได้รับ ความช่วยเหลือ จากเพื่อน ๆ นักแสดง ด้วยกัน ทุกคนรอบ ๆ ตัว ให้การช่วยเหลือ ฉันเป็นอย่างดี เลยค่ะ”

เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ที่ผ่านมา จางกยูริ

เป็นหนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป fromis_9 แต่ในภายหลังเธอได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับทางต้นสังกัด PLEDIS Entertainment ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ซึ่งปัจจุบันเธอจึงมีโอกาสได้เผยถึงเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้เลือกเดินเส้นทางใหม่ในสายนักแสดงนี้ว่า

“มันเป็นความฝันที่ฉันคอยเก็บซ่อนเอาไว้ในมุมลึก ๆ ของหัวใจค่ะ ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าหลายคนคงสงสัยว่าทำไมฉันถึงเลิกเดินทางสายไอดอล ในเมื่อฉันสามารถเป็นได้ทั้งไอดอลและนักแสดง ฉันเลยคิดว่าเพราะนี่มันเป็นความฝันของฉัน และฉันก็อยากเติมเต็มมันให้สมบูรณ์เช่นกันค่ะ”

นอกเหนือจากนั้น เธอยังได้กล่าวเสริมอีกด้วยว่า “ในตอนเริ่มต้นถ่ายทำซีรีส์ Cheer Up ฉันต้องทำกิจกรรมของวงและการแสดงในเวลาเดียวกัน ฉันเลยรู้สึกว่ายังไม่สามารถจัดสรรเวลาการทำงานของทั้งสองอย่างนี้ได้ และยังโฟกัสทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจไม่ได้เช่นกัน ฉันเลยคิดว่าตัวเองยังไม่สามารถทำทั้งสองอย่างได้ดีมากพอ โดยเฉพาะเรื่องของสภาพร่างกาย หลังจากที่ฉันต้องฝึกฝนเพื่อเตรียมทำอัลบั้มร่วมกับสมาชิกวง และยังต้องร่วมซ้อมกับทีมเชียร์ไปพร้อมกัน ซึ่งฉันกลับจำท่าเต้นไม่ค่อยได้ ฉันเลยรู้สึกว่ามันคงหนักเกินไปที่จะต้องจัดการทั้งสองอย่างค่ะ ฉันรู้สึกเสียใจที่อาจทำให้มันไปกระทบกับเพื่อน ๆ สมาชิก เพราะถึงแม้ฉันจะคิดถึงการฝึกซ้อมมากแค่ไหน แต่ฉันก็กลับซ้อมได้ไม่มากนักค่ะ”

อย่างไรก็ดีแล้ว Jang Gyu-ri แล้วก็เพื่อนๆสมาชิกวง fromis_9 ยังคงรักษาความข้องเกี่ยวที่น่ารักและก็ยังคงติดต่อหากันอยู่เสมอ ซึ่งเธอมักจะกล่าวคุยถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันของเธอ เพื่อเล่าให้กับเพื่อน ๆ สมาชิกฟังอยู่ตลอด โดยเธอได้กล่าวถึงพวกเขาเพิ่มเติมอีกว่า “พวกเรายังคงใช้ร้านแต่งหน้าร้านเดียวกันอยู่ค่ะ เวลาที่พวกเราพบกันและพูดคุยกัน พวกเธอก็มักบอกกับฉันว่า ‘ฉันจะดูซีรีส์ตอนออกอากาศนะ’ หรือ ‘ฉันดูซีรีส์เธออยู่นะ’ พวกเขาให้การสนับสนุนผลงานของฉันเช่นกันค่ะ”

สุดท้ายนี้ จางกยูริ ก็ได้กล่าวความรู้สึกถึงเหล่าแฟนคลับอย่างน่ารัก

อีกเช่นกันว่า “ฉันกลัวว่าแฟน ๆ จะเจ็บปวดและผิดหวังในตัวฉัน แต่สุดท้ายก็ยังมีคนที่คอยเป็นกำลังใจให้ฉันเยอะเหมือนเดิมเลยค่ะ ฉันเลยคิดว่าจะตั้งใจใช้ชีวิตให้มากขึ้น เพื่อตอบแทนความรักของแฟน ๆ ทุกคนค่ะ”

‘จางกยูริ’ อดีตไอดอลสาวจากวง Fromis 9 ที่ผันตัวมาเดินบนทางการแสดงแบบเต็มกำลัง
หลังเคยเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางจากการรับบท ซอนบยอล พยาบาลสุดน่ารัก ในซีรีส์เรื่อง It’s Okay to Not Be Okay
และในขณะนี้เธอยังคงโลดแล่นอยู่ในซีรีส์ Cheer Up ซีรีส์เรื่องปัจจุบันของเธอในบทบาทของ แทโชฮี รองประธานชมรมเชียร์ธีอา
ล่าสุดจางกยูริได้ขึ้นปกนิตยสาร Singles ฉบับธ.ค. ด้วยโอกาสนี้ คุณก็เลยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารถึงผลงานซีรีส์ Cheer Up
ที่การถ่ายทำได้เสร็จสิ้นไปแล้ว พร้อมบอกเป้าหมายของเธอในฐานะนักแสดงในอนาคต

Cheer Up (치얼업) เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก – คอมเมดี้

ที่จะบอกเรื่องราวมิตรภาพ และก็ ความรัก
ของคนวัยชายหนุ่มสาวที่มารวมตัวกันในชมรมเชียร์ธีอาของมหาวิทยาลัยยอนฮี ที่มีประวัติอันยาวนานกว่า 50 ปี

โดยในเรื่องนี้ จาง กยูริ รับบทเป็น แทโชฮี รองหัวหน้าชมรมเชียร์ธีอา ที่ป็อปปูลาร์อีกทั้งในกลุ่มผู้ชายและผู้หญิง
ด้วยท่าทางที่ทั้งยังสวยแล้วก็เท่ห์ในเวลาเดียวกัน โดยJang Gyu-riได้เปิดเผยความรู้สึกของเธอที่มีต่อการถ่ายทำซีรีส์ Cheer Up ที่ได้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว ว่า

“ฉันคิดว่าฉันคงจะเสียใจถ้าหากรู้สึกว่าการถ่ายทำได้จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นฉันจึงทำตัวสบาย ๆ เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองรู้สึกว่าการถ่ายทำได้เสร็จสุดลงจริง ๆ ”